หลังจากการผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำในการดูแลแผลเป็นและข้อควรระวังในการรับประทานอาหาร เนื่องจากอาหารบางชนิดสามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและทำให้แผลเป็นนูนได้ อาหารแสลงเหล่านี้ ได้แก่:
- อาหารทะเล: เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก ปลาแซลมอน อาหารทะเลมีสารฮีสตามีนที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้และการอักเสบ
- อาหารหมักดอง: เช่น หน่อไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า เนื้อเค็ม อาหารหมักดองมีปริมาณเกลือสูง ซึ่งก่อให้เกิดการบวมและอาจทำให้อาการบาดเจ็บแย่ลง
- อาหารรสจัด: อาหารที่มีเครื่องเทศจัดจ้าน เช่น พริกป่น กระเทียม พริกไทย พริกไทยดำ เนื่องจากเครื่องเทศเหล่านี้กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณแผลและทำให้แผลเป็นนูนขึ้น
- อาหารมันเยิ้ม: เช่น ของทอด ไส้กรอก แฮมเบอร์เกอร์ อาหารมันเยิ้มมีไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งส่งเสริมการอักเสบและทำให้แผลเป็นติดเชื้อได้
- อาหารที่ทำให้ท้องอืด: เช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ถั่วลิสง เครื่องดื่มมีแก๊ส อาหารเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและอาจทำให้แผลพองได้
- อาหารที่ทำให้เกิดแผลเป็นนูน: เช่น เนื้อเป็นไก่ ไข่ นม เนย ชีส อาหารเหล่านี้มีโปรตีนคอลลาเจนและอีลาสตินสูง ซึ่งส่งเสริมการก่อตัวของแผลเป็นนูนเป็นแผลห้ามกินอะไร อาหารแสลงหลังผ่าตัด ที่ทำให้เกิดแผลเป็น
บทคัดย่อ
แผลเป็นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หลังการผ่าตัด แต่อาหารบางชนิดสามารถทำให้แผลเป็นแย่ลงหรือหายช้าลง ดังนั้น หลังการผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงอาหารแสลงเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็น
บทนำ
หลังการผ่าตัด ร่างกายจะเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซมบาดแผล โดยจะสร้างเนื้อเยื่อใหม่เพื่อปิดแผล ซึ่งเนื้อเยื่อใหม่นี้จะกลายเป็นแผลเป็นในที่สุด ปัจจัยหลายอย่างมีผลต่อการเกิดแผลเป็น รวมถึงชนิดของการผ่าตัด ขนาดของแผล และการดูแลแผล แต่ปัจจัยหนึ่งที่ควบคุมได้คือ อาหารที่รับประทานหลังการผ่าตัด
อาหารแสลงหลังผ่าตัด
1. อาหารที่มีคอลลาเจนสูง
- เนื้อหนังสัตว์ที่ติดเอ็นหรือกระดูกอ่อน
- หางหมู
- หนังไก่
- อาหารทะเลบางชนิด เช่น ปลิงทะเล ปลาหมึก
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่พบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมบาดแผล แต่การรับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูงหลังการผ่าตัด อาจทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนมากเกินไป จนเกิดแผลเป็นนูนได้
2. อาหารที่มีวิตามินซีสูง
- ผลไม้ตระกูลส้ม
- กีวี
- สตรอว์เบอร์รี
- บรอกโคลี
วิตามินซีเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับการสมานแผล แต่การรับประทานวิตามินซีในปริมาณมากหลังการผ่าตัด อาจทำให้แผลหายช้าลงหรือเกิดแผลเป็นได้
3. อาหารที่มีสังกะสีสูง
- หอยนางรม
- เนื้อแดง
- ถั่ว
- ธัญพืช
สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ แต่การรับประทานสังกะสีในปริมาณมากหลังการผ่าตัด อาจทำให้เกิดการอักเสบและแผลเป็นได้
4. อาหารที่มีน้ำตาลสูง
- ขนมหวาน
- น้ำอัดลม
- ขนมปังขาว
- พาสต้า
น้ำตาลจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิตและการซ่อมแซมบาดแผล การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงหลังการผ่าตัด อาจทำให้แผลหายช้าลงหรือเกิดแผลเป็นได้
5. อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง
- เนื้อแดง
- ไส้กรอก
- ชีส
- ครีม
ไขมันอิ่มตัวจะทำให้เลือดหนืด ทำให้การไหลเวียนโลหิตไปยังแผลแย่ลง การรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงหลังการผ่าตัด อาจทำให้แผลหายช้าลงหรือเกิดแผลเป็นได้
บทสรุป
แม้ว่าการผ่าตัดจะหลีกเลี่ยงแผลเป็นไม่ได้ แต่การหลีกเลี่ยงอาหารแสลงเหล่านี้หลังการผ่าตัด สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเฉพาะเกี่ยวกับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการผ่าตัด
แท็กที่เกี่ยวข้อง
- แผลเป็น
- อาหารแสลง
- ผ่าตัด
- การดูแลแผล
- การสมานแผล
เฮ้ย…อาหารแสลงหลังผ่าตัดเยอะแยะไปหมดเลย แล้วจะกินอะไรได้วะเนี่ย
เป็นแผลแล้วต้องงดของหมักดอง ไม่กินของดิบ ของสุกๆดิบๆ เอาง่ายๆไม่กินอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน ก็คงจะปลอดภัย
เป็นแผลแล้วต้องระมัดระวังในการกินเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้แผลเป็นนั้นลุกลามและไม่ให้เกิดแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์
อาหารแสลงหลังผ่าตัดเหรอ เพิ่งรู้เนี่ย ว่ามีอาหารต้องห้ามกินด้วย
รู้ไหมว่าทำไมถึงต้องงดอาหารแสลงหลังผ่าตัด เพราะอาหารแสลงเหล่านี้จะไปทำให้แผลหายช้ากว่าเดิมนั่นเอง
ก่อนผ่าตัดก็ว่าแสลงแล้ว หลังผ่าตัดก็ยิ่งแสลงกว่าเดิมอีก แหม…เอาไงดีเนี่ย
แล้วถ้ากินอาหารแสลงหลังผ่าตัดไปแล้วจะเป็นยังไงหรอครับ
เป็นแผลแล้วโดนห้ามกินนู่นกินนี่เยอะแยะไปหมด เซ็งเป็ดเลย
กินอะไรก็ได้ แต่กินอย่างพอดี ไม่กินของหมักดอง ของดิบ ของสุกๆดิบๆ แค่นี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว