รักษานอนกรน ที่ไหนดี ลดการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับโดยไม่ต้องผ่าตัด

รักษาคความผิดปกตินอนกรน ที่ไหนดี?

ภาวะนอนกรน (Snoring) เกิดจากระบบทางเดินหายใจส่วนบนตีบแคบในระหว่างหลับ ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนและเป็นปัญหาคุณภาพชีวิตทั้งต่อผู้ที่มีอาการนอนกรนและคู่ร่วมนอน เพราะการนอนกรนจะทำให้หลับไม่สนิท เกิดอาการง่วงนอน อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า และส่งผลต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย

การรักษาคความผิดปกตินอนกรนสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แนวทางหลักๆ คือ

1. การรักษาโดยไม่ผ่าตัด เช่น การใช้เครื่องมือช่วยหายใจชนิดต่างๆ
2. การรักษาโดยการผ่าตัด

การรักษาคความผิดปกตินอนกรนโดยไม่ผ่าตัด

ปัจจุบันมีเครื่องมือชนิดต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาภาวะนอนกรนโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยเปิดทางเดินหายใจให้โล่งขึ้น ทำให้การหายใจคล่องขึ้น ลดการเกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อบริเวณทางเดินหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นสาเหตุของเสียงกรน

เครื่องมือชนิดต่างๆ ที่ใช้รักษาภาวะนอนกรน ได้แก่

• เครื่องเป่าลมเข้าทางจมูก (Nasal CPAP)
• เครื่องเป่าลมเข้าทางปากและจมูก (Bilevel PAP)
• เครื่องมือยึดขากรรไกร (Mandibular Advancement Device: MAD)
• เครื่องมือช่วยขยายเพดานอ่อนและโคนลิ้น (Soft Palate and Tongue Base Implants)

การรักษาภาวะนอนกรนโดยไม่ผ่าตัดสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีได้ในผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงจนถึงปานกลาง โดยแพทย์จะเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย

ข้อดีของการรักษาภาวะนอนกรนโดยไม่ผ่าตัด

• ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่ต้องเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด *
• ไม่เจ็บ ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงจนถึงปานกลาง

ข้อเสียของการรักษาภาวะนอนกรนโดยไม่ผ่าตัด

• อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะได้ผล โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการรุนแรง
• ผู้ป่วยบางรายอาจไม่สามารถทนใช้เครื่องมือได้นานๆ
• หากหยุดใช้เครื่องมือ อาการนอนกรนอาจกลับมาได้อีก

สรุป

การรักษาภาวะนอนกรนโดยไม่ผ่าตัดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงจนถึงปานกลาง แพทย์จะเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยพิจารณาจากความรุนแรงของอาการ ความต้องการของผู้ป่วย และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง## รักษาอาการนอนกรน ที่ไหนดี ลดการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยไม่ต้องผ่าตัด

ในปัจจุบัน หลายท่านคงประสบปัญหาการนอนกรน ที่ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง โดยเฉพาะคู่ชีวิต แต่รู้หรือไม่ว่าการนอนกรนเป็นสัญญาณเตือนของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea : OSA) ซึ่งอันตรายและร้ายแรงถึงชีวิตได้ เรามาทำความรู้จักและหาวิธีรักษากันเถอะ

ความเสี่ยงของการนอนกรน

• เสี่ยงต่อการหยุดหายใจขณะหลับ
• หัวใจขาดเลือดและหัวใจล้มเหลว
• โรคหัวใจขาดเลือด
• โรคเบาหวาน
• ความดันโลหิตสูง
• โรคหลอดเลือดสมอง

เนื่องจากการนอนกรนเป็นอาการเตือนที่ไม่ชัดเจน หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แต่จะมีสัญญาณต่างๆ ดังนี้

• ง่วงเหงาตลอดเวลา
• ตื่นนอนตอนเช้าแล้วไม่รู้สึกสดชื่น
• มีอาการปวดศรีษะ เจ็บคอ หรือปากแห้งตอนตื่นนอน
• อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า
• มีปัญหาเกี่ยวกับความจำและสมาธิ

วิธีรักษาอาการนอนกรน

ในการรักษาอาการนอนกรนนั้น วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ หากสาเหตุเกิดจากความอ้วน แพทย์จะแนะนำให้ลดน้ำหนัก ในขณะที่หากสาเหตุเกิดจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดต่างๆ

อย่างไรก็ตาม หากกรณีเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว จำเป็นต้องใช้วิธีการรักษาขั้นสูง เช่น การผ่าตัดขยายทางเดินหายใจ การใช้เครื่องมือยึดกระดูกลิ้นชิ้นเล็ก (MMA) ขาบน เพื่อดึงลิ้นให้ยื่นออกมา ซึ่งเป็นการรักษาที่รุกล้ำ อาจเจ็บปวด และมีผลข้างเคียง

ทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัดรักษาอาการนอนกรน

หากผู้ป่วยไม่ต้องการผ่าตัด ก็มีทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน ซึ่งวิธีการที่ได้รับความนิยม ได้แก่

การใส่อุปกรณ์ช่วยในการนอนหลับชนิดพิเศษ (MAD)

เป็นเครื่องมือที่ใส่ในช่องปากในเวลานอน ช่วยดันขากรรไกรล่างให้ยื่นออกไปด้านหน้า ซึ่งช่วยเปิดทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น MAD มีประสิทธิภาพสูงในการลดอาการนอนกรน และลดอาการหยุดหายใจขณะหลับ

• ปรับแต่งได้เฉพาะรายบุคคล
• สะดวก ใช้งานง่าย
• ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับวิธีการอื่น

การใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวกต่อเนื่อง (CPAP)

เครื่อง CPAP จะเป่าลมอัดเข้าไปในจมูกและปากผ่านหน้ากาก เพื่อให้ทางเดินหายใจเปิดอยู่ เครื่องช่วยหายใจ CPAP มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการหยุดหายใจขณะหลับขณะหลับ แต่บางคนอาจรู้สึกอึดอัดและไม่สบายกับหน้ากาก

• เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
• สามารถป้องกันการหยุดหายใจขณะหลับได้อย่างสมบูรณ์
• ผู้ใช้บางรายอาจรู้สึกอึดอัด จากการใส่หน้ากาก CPAP

การฝังกระตุ้นเส้นประสาท (Inspire)

Inspire เป็นอุปกรณ์ที่ฝังไว้ที่ด้านหลังลิ้นและเชื่อมต่อกับเครื่องกระตุ้นใต้ผิวหนังที่บริเวณหน้าอก เมื่อผู้ใช้เริ่มหายใจ เครื่องกระตุ้นจะส่งพัลส์ไฟฟ้าไปที่เส้นประสาทที่ควบคุมลิ้น ทำให้ลิ้นดึงไปข้างหน้า ช่วยเปิดทางเดินหายใจ Inspire มีประสิทธิภาพสูงในการลดอาการนอนกรน และอาการหยุดหายใจขณะหลับขณะหลับ

• ไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจหรืออุปกรณ์ใดๆ
• ไม่มีหน้ากากหรือสายรัดที่จะทำให้รำคาญ
• เป็นการรักษาถาวรที่ไม่ต้องผ่าตัดบ่อยๆ

การร้อยไหมคลินิกแพทย์ (Korean Thread Lift)

เป็นเทคนิคใหม่ในการยกกระชับใบหน้า มีข้อได้เปรียบในการยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณปาก ลำคอ และใบหน้า ด้วยไหมละลายชนิดพิเศษที่ใช้สำหรับการแพทย์โดยเฉพาะ ซึ่งเกาหลีเป็นประเทศที่มีการพัฒนาและคิดค้นเทคนิคนี้ ในปัจจุบันมีหลายๆ คลินิกแพทย์นำมาใช้เพื่อรักษาอาการนอนกรนที่มีสาเหตุจากเพดานอ่อนหย่อน คอหย่อน และลิ้นฐานหนา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีการเล็กๆ และร้อยไหมเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อ เพียง 5-15 จุด ก็สามารถช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและยกกระชับขึ้น โดยร่างกายสามารถดูดซับไหมกลับคืนในระยะเวลาประมาณ 180 วัน

• ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด
• ยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณปาก คอ และใบหน้า
• ได้ผลค่อนข้างเร็ว เห็นผลชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก

สรุป

การนอนกรน แม้จะไม่ใช่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงมาก แต่ก็อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย เช่น โรคหัวใจ ความดัน รวมถึงยังสามารถส่งผลถึงคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคนนอนข้างๆ ที่ได้รับผลจากเสียงนอนกรน จนอาจจะนอนไม่หลับ หรือได้พักผ่อนไม่เต็มที่ ดังนั้นการรักษาอาการนอนกรน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการรักษาและลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

คำที่เกี่ยวข้อง

• รักษาอาการนอนกรน
• ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
• MAD
• CPAP
• Inspire
• ร้อยไหมยกกระชับ
• Korean Thread Lift