วิธีลดน่องขา เร่งด่วน ขาเรียวสวย เปลี่ยนน่องปูด เป็นขาสวยเพอร์แฟค กระโดดเชือก เป็นการออกกำลังกายที่มีผลกระทบต่ำที่สามารถช่วยลดไขมันที่น่องได้ ซึ่งจะทำให้ขาดูเรียวสวยขึ้น วิธีนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจของคุณและเผาผลาญแคลอรีได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่สนุกและมีส่วนร่วมในการออกกำลังกาย วิ่ง การวิ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดไขมันที่น่อง เมื่อคุณวิ่ง กล้ามเนื้อน่องของคุณจะทำงานเพื่อผลักดันคุณไปข้างหน้า ซึ่งจะช่วยให้พวกมันกระชับขึ้นและเล็กลง ปั่นจักรยาน การปั่นจักรยานเป็นวิธีที่ดีในการลดไขมันที่น่องและกระชับกล้ามเนื้อต้นขาของคุณ การปั่นจักรยานยังเป็นการออกกำลังกายที่มีผลกระทบต่ำ ซึ่งหมายความว่าจะไม่ทำร้ายข้อต่อของคุณ ว่ายน้ำ การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการลดไขมันที่น่องโดยไม่ทำร้ายข้อต่อของคุณ น้ำจะช่วยพยุงน้ำหนักของคุณ จึงลดแรงกระแทกลงบนข้อต่อของคุณ นอกจากนี้ การว่ายน้ำยังเป็นวิธีที่สนุกและผ่อนคลายในการออกกำลังกาย โยคะ โยคะเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการยืดและกระชับกล้ามเนื้อน่องของคุณ ซึ่งจะช่วยให้ขาดูเรียวสวยขึ้น โยคะยังช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นและช่วงการเคลื่อนไหวของคุณ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บได้ นวด การนวดสามารถช่วยคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและลดอาการปวดได้ ซึ่งจะทำให้เดินและออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น การนวดเป็นวิธีที่ผ่อนคลายในการลดไขมันที่น่อง ประคบน้ำแข็ง การประคบน้ำแข็งสามารถช่วยลดการอักเสบและอาการปวดได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดการไหลเวียนโลหิตซึ่งจะช่วยลดการสะสมของของเหลวในน่อง ประคบน้ำแข็งบริเวณน่องเป็นเวลา 15-20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง ยกขาสูง การยกขาสูงเป็นท่าออกกำลังกายที่สามารถช่วยลดไขมันที่น่องและกระชับกล้ามเนื้อต้นขาของคุณ นอนราบกับพื้นและยกขาของคุณขึ้นเหนือศีรษะ ค้างท่านี้ไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วลดขาลงทำซ้ำ 10-15 ครั้ง ดื่มน้ำเยอะๆ การดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยให้ร่างกายของคุณกำจัดของเสียและลดการกักเก็บของเหลวซึ่งจะทำให้ขาดูเรียวสวยขึ้น […]
Category Archives: Blog
โบท็อกซ์ลดน่อง กับ ดูดไขมันน่อง แตกต่างกันอย่างไร บทสรุป การฉีดโบท็อกซ์และการดูดไขมันเป็นขั้นตอนการลดขนาดน่องที่แตกต่างกันอย่างมาก โบท็อกซ์เป็นสารพิษที่ทำงานโดยทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ในขณะที่การดูดไขมันเป็นการผ่าตัดที่กำจัดเซลล์ไขมันโดยตรง ทั้งสองขั้นตอนนี้มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจความแตกต่างก่อนตัดสินใจ บทนำ น่องที่ใหญ่และใหญ่โตอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพยายามสวมใส่กางเกงหรือกระโปรง การฉีดโบท็อกซ์และการดูดไขมันเป็นสองวิธีในการลดขนาดน่อง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองขั้นตอนนี้มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป วิธีฉีดโบท็อกซ์ลดน่อง โบท็อกซ์ เป็นสารพิษที่ผลิตโดยแบคทีเรีย Clostridium botulinum เมื่อฉีดเข้ากล้ามเนื้อแล้ว โบท็อกซ์จะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและหยุดทำงานชั่วคราว ซึ่งอาจทำให้เกิดการลดขนาดน่องได้ ข้อดี ช่วยลดขนาดลูกหนูได้ชั่วคราว มีผลเร็ว ไม่เจ็บปวด ข้อเสีย ผลลัพธ์จะสั้นเพียงประมาณ 3-6 เดือน อาจมีอาการช้ำหรือบวมหลังการฉีด อาจจำเป็นต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ วิธีการดูดไขมันน่อง การดูดไขมัน เป็นขั้นตอนการผ่าตัดที่กำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย โดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า cannula เพื่อดูดไขมันออก การดูดไขมันสามารถใช้เพื่อลดขนาดน่องและทำให้รูปร่างของน่องดูเพรียวขึ้น ข้อดี ผลลัพธ์ถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินมาก สามารถดำเนินการร่วมกับขั้นตอนอื่นๆ เพื่อปรับปรุงรูปร่างขาโดยรวม ข้อเสีย การผ่าตัดและมาพร้อมกับความเสี่ยงแทรกซ้อนทั่วไปของการผ่าตัด อาจมีอาการบวมและช้ำเป็นเวลานาน มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าโบท็อกซ์ ความแตกต่างที่สำคัญ ความแตกต่างหลักระหว่างการฉีดโบท็อกซ์และการดูดไขมันคือ: กลไกการออกฤทธิ์: โบท็อกซ์ทำงานโดยทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ในขณะที่การดูดไขมันกำจัดเซลล์ไขมัน […]
ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น วิธีแก้ การที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณจุดซ่อนเร้น อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งสามารถรับมือได้ด้วยวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้: รักษาความสะอาด การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นเป็นประจำด้วยน้ำเปล่าหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน จะช่วยขจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นได้ สวมใส่ชุดชั้นในที่ระบายอากาศได้ดี การสวมใส่ชุดชั้นในที่คับเกินไปจะทำให้เกิดความอับชื้น ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เลือกสวมใส่ชุดชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้ายและระบายอากาศได้ดี เพื่อลดความอับชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด การสวนล้างช่องคลอดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในช่องคลอดได้ ซึ่งนำไปสู่กลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ รับประทานอาหารที่มีสุขภาพดี รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ เช่น โยเกิร์ตและกิมจิ ซึ่งมีแบคทีเรียที่มีประโยชน์ช่วยรักษาความสมดุลของจุลินทรีย์ในช่องคลอด พบแพทย์ หากกลิ่นไม่พึงประสงค์ยังคงอยู่หลังจากใช้มาตรการเหล่านี้แล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม## ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น วิธีแก้ ปัญหาจุดซ่อนเร้น การรับมือง่ายๆ บทสรุป ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็นเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในผู้หญิง สาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ การติดเชื้อ แบคทีเรีย หรือเชื้อรา ยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ และโรคบางอย่าง การรักษากลิ่นเหม็นจากช่องคลอดสามารถทำได้โดยการใช้ยาเหน็บ ยาทา หรือการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ วิธีป้องกันกลิ่นเหม็นจากช่องคลอดที่สำคัญ ได้แก่ การรักษาความสะอาด สุขอนามัยที่ดี และการสวมใส่ชุดชั้นในที่ระบายอากาศได้ดี บทนำ กลิ่นเหม็นจากช่องคลอดเป็นปัญหาที่ผู้หญิงหลายคนประสบ พบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น เมื่อมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ […]
หุ่นลูกแพร์ คืออะไร? หุ่นลูกแพร์เป็นลักษณะรูปร่างที่ช่วงบนค่อนข้างบาง แต่มีสะโพกกว้างและต้นขาใหญ่ โดยอาจมีสะโพกและต้นขาที่มีขนาดโตกว่าช่วงเอวและหน้าอกอย่างเห็นได้ชัด หุ่นลูกแพร์ยังมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Endomorphic Body Type การกินสำหรับหุ่นลูกแพร์ เน้นรับประทานผักผลไม้ ธัญพืช ไม่ขัดสี เนื้อปลา และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ลดการบริโภคอาหารแปรรูป อาหารที่มีน้ำตาลสูง และอาหารที่มีไขมันทรานส์ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอตลอดทั้งวัน การออกกำลังกายสำหรับหุ่นลูกแพร์ เน้นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เพื่อช่วยในการเผาผลาญไขมันและกระชับกล้ามเนื้อ โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ ให้ผนวกการฝึกความแข็งแรงเข้าไปด้วย เช่น ท่าซิทอัป เพื่อกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้อง ท่าแพลงก์ เพื่อเสริมสร้างแกนกลางลำตัว ท่าสควอท เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขาและสะโพก ท่าลันจ์ เพื่อกระชับกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและก้นหุ่นลูกแพร์ คืออะไร เป็นแบบไหน กินอะไรและออกกำลังกายแบบไหน บทคัดย่อ หุ่นลูกแพร์เป็นรูปร่างของร่างกายที่มีลักษณะสะโพกและต้นขาใหญ่กว่าเอว บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับหุ่นลูกแพร์ รวมถึงสิ่งที่ควรกินและการออกกำลังกายที่เหมาะสมเพื่อรักษาสุขภาพและรูปร่าง บทนำ หุ่นลูกแพร์เป็นรูปร่างของร่างกายที่พบได้ทั่วไปในผู้หญิง โดยมีลักษณะที่สะโพกและต้นขาใหญ่กว่าเอว บุคคลที่มีหุ่นลูกแพร์มีแนวโน้มที่จะมีการสะสมไขมันบริเวณสะโพกและต้นขา แต่อาจมีเอวที่ค่อนข้างเล็กและหน้าอกที่เล็กเช่นกัน […]
วิธีลดไขมันบริเวณหน้าท้องอย่างได้ผล บริเวณหน้าท้องเป็นส่วนที่ไขมันสะสมง่ายที่สุด เนื่องจากเป็นบริเวณที่ร่างกายใช้สำหรับเก็บพลังงานส่วนเกิน ซึ่งหากปล่อยให้ไขมันสะสมมากเกินไปก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนั้นการลดไขมันในบริเวณหน้าท้องจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็สามารถทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้ลดอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และแป้งขัดขาว ออกไป แล้วหันมารับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสีแทน เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะช่วยให้อิ่มท้องได้นานขึ้น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายมีส่วนช่วยในเรื่องการลดไขมันในบริเวณหน้าท้องได้เป็นอย่างดี โดยควรเน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบสร้างกล้ามเนื้อ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที ดื่มน้ำเยอะๆ น้ำช่วยให้อิ่มท้องได้ และยังช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกายอีกด้วย ดังนั้นแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว นอนหลับให้เพียงพอ เมื่อร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นความอยากอาหารและทำให้เกิดการสะสมไขมันในบริเวณหน้าท้องได้ ดังนั้นจึงควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน จัดการความเครียด ความเครียดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติซอล ดังนั้นการจัดการความเครียดด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทำสมาธิ การออกกำลังกาย หรือการพูดคุยกับเพื่อนหรือครอบครัว ก็จะช่วยลดการสะสมไขมันหน้าท้องได้ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มชูกำลัง จะให้พลังงานมากแต่ไม่มีสารอาหารใดๆ เลย […]
เทียบการยกกระชับหน้า: Emface Vs Ulthera Vs Thermage Vs Morpheus8 การยกกระชับใบหน้าเป็นขั้นตอนการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด ช่วยปรับปรุงลักษณะของผิวหนังที่หย่อนคล้อยและมีริ้วรอย โดยมีตัวเลือกมากมายในปัจจุบัน เช่น Emface, Ulthera, Thermage และ Morpheus8 ซึ่งแต่ละตัวมีเทคโนโลยีและประโยชน์ที่แตกต่างกัน Emface Emface เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับใบหน้าและปรับรูปหน้าที่ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ร่วมกับกระแสไฟฟ้า microcurrent การผสมผสานนี้ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน สร้างผลลัพธ์ที่ทั้งยกกระชับและกระชับ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงความหย่อนคล้อยของใบหน้า ลดริ้วรอย ลดถุงใต้ตา และให้รูปหน้าที่ชัดเจนขึ้น Emface เป็นวิธีที่ไม่เจ็บปวด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลในทันทีและคงอยู่นานหลายเดือน Ulthera Ulthera เป็นอุปกรณ์ปล่อยคลื่นเสียงความเข้มสูงที่ผ่านชั้นผิวหนังเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ เทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อยกกระชับและกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบนใบหน้า คอ และบริเวณอื่นๆ Ulthera มักใช้ในการยกโหนกแก้ม ลดเหนียง ปรับปรุงความหย่อนคล้อยของคอ และยกคิ้ว ผลลัพธ์เป็นแบบทันทีและจะเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ภายในสองถึงสามเดือน Thermage Thermage เป็นระบบการยกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดที่ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุแบบโมโนโพลาร์ เทคโนโลยีนี้ให้ความร้อนใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่และทำให้ผิวหนังกระชับขึ้น Thermage มักใช้ในการยกโหนกแก้ม ลดเหนียง ยกคิ้ว […]
*เดือนแห่งความภาคภูมิของชาว LGBTQIA+ เดือนมิถุนายนของทุกปีถือเป็นเดือนแห่งความภาคภูมิของชาว LGBTQIA+ ทั่วยุค พวกเขาจะออกมาเฉลิมฉลองความรักความหลากข หลากทางทางเพศ (Gender Diversity) ที่หลากลาก ทั้งหญิงรักหญิง (Lesbian) ชายรักชาย (Gay) กะแผนสอง (Bisexua ชายหรือหญิงข้ามเพศ (Transgender) ชายหรือหญิงที่ไม่สามารถจำแนกเพศได้ (Queer) ชายหรือหญิงที่รักได้ตั้งแต่สองเพศขึ้นไป (Pansexual) รวมทั้งกลุ่มที่มีเพศสภาพไหลลื่น changeable gender identities) ในประเทศไทยจะมีการร่วมเฉลิมฉลองวันความภาคภูมิเหล่า LGBTQIA+ โดยหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกช สื่อมมวลชล ภาคธุรกิจ องค์กรมูลนิธิ ตลอดจนภาคประชาสังคม เป็นระยะเวลารวม 1 เดือนของเดือนมิถุนายน ภายใต้ชื่อ “วัลนา ไอแอม พราวด์” ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญ เพื่อให้ผู้ที่มีความหลากหลากทางเพศทั่วโลก ได้ร่วมเฉลิมฉลองความภาคภูมิในความหลากหลากของตนเอง การออกมาเฉลิมฉลองของชาว LGBTQIA+ โดยทั่วไปจะมีการแต่งกายในชุดที่แสดงความภูมิในให้เห็นถึงความหลาก gender identities) เช่น เสื้อผ้าที่ดู exaggerated หรือแสดงความแปลกต่างที่ชัดเจน […]
การบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด ป้องกันความเสื่อม ฟื้นฟูสุขภาพ และชะลอวัยด้วยไขมันตัวเอง การบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิดมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหายหรือเสื่อมลง ซึ่งสามารถป้องกันความเสื่อมของร่างกาย ฟื้นฟูสุขภาพ และชะลอวัยได้ โดยหนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยมคือการใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากไขมันตัวเอง เซลล์ต้นกำเนิดจากไขมัน (Adipose-Derived Stem Cells หรือ ADSC) เป็นเซลล์ที่สามารถเจริญเติบโตไปเป็นเซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้ โดยสามารถสกัดได้จากเนื้อเยื่อไขมันของผู้ป่วยเอง วิธีนี้มีความปลอดภัยสูงและไม่มีความเสี่ยงจากการติดเชื้อหรือการแพ้ เมื่อได้เซลล์ต้นกำเนิดแล้ว จะนำมาเพาะเลี้ยงและเพิ่มจำนวนก่อนจะนำกลับไปฉีดในบริเวณต่างๆ ของร่างกายที่ต้องการซ่อมแซมหรือฟื้นฟู เซลล์ต้นกำเนิดเหล่านี้จะปล่อยสารกระตุ้นต่างๆ ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ การสร้างเส้นเลือดใหม่ และการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย การบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิดจากไขมันตัวเองได้แสดงผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาโรคและอาการต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคข้ออักเสบ โรคปอด โรคตับ โรคไต โรคผิวหนัง และอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพโดยรวม ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วันงดสูบบุหรี่ วันเเห่งการสนับสนุนเพื่อประชาชนที่มีความใส่ใจรักษาตัว ให้มีชีวิตที่ดีอยู่เป็นนิจ วันที่ 4 เดือนกรกฎาคม คือ “วันงดสูบบุหรี่” เป็นวันที่ประกาศเพื่อรณรงค์ให้นักบุหรี่ละเลิกสูบบุหรี่ หรือ งดสูบบุหรี่ในวันนี้ ให้เป็นวันพิเศษ เพื่อประโยชน์ของตนเอง เพื่อเป็นของขวัญให้กับทุกชีวิต เพื่อให้ร่างกายเราได้ชำระ ได้ฟอกอากาศอันบริสุทธิ์จากธรรมชาติที่แสนจะเป็นประโยชน์ให้กลับคืนร่างกายเราให้แข็งแรง และลดโอกาสของการเป็นโรคร้ายที่แสนจะทรมานเราอย่างมากมายนัก การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันสมครร ควบคุมได้เพียงชั่วคราวแต่สุดท้ายก็จะเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจ โรคถุงลมปอดโป่งพอง มะเร็งปอด และโรคร้ายอีกมากมายที่เกิดจากสารพิษในบุหรี่ถึง 7,000 กว่าชนิด เป็นสาเหตุที่ลดอายุปากรของมนุษย์ เฉลี่ยลงถึง 10-15 ปี เลยทีเดียว โดยการสูบบุหรี่เพียง 1 มวน จะทำให้หัวใจเต้นผิดปกติถึง 20 นาที แล้วจะเกิดการเสพติดอย่างรุน เเง หลัง 30 นาที จะทำให้เส้นเลือดเเข้งและข้อเท้าจะตีบ ส่งเลือดไปเลี้ยงเเขน ขาได้ลำบากมากยิ่งขึ้นในระยะเวลาอันยาวนาน มีผู้เสียชีวิตจากบุหรี่ปีละ 80,000 คน เฉพาะประเทศไทยปีละ 50,000 คน เป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศสูงถึง 700,000 บาทต่อปีเพราะต้องใช้งบประมาณในการรักษาผู้ป่วย และสูญเสียกำลังการทำงานของเเรงงานมหาศาล ที่สุดเเสนจะขนานนัับ ทั้งนี้ทั้งนั้นจึงควรรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่อย่างจริงเเจ้ง […]
วิธีดูแลตนเอง 1 เดือน หลังจากการดูดไขมัน หลังจากการดูดไขมัน ร่างกายจำเป็นต้องมีเวลาในการฟื้นฟูและซ่อมแซม การดูแลตนเองอย่างถูกวิธีในช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัดมีส่วนสำคัญในการช่วยให้แผลหายเร็ว ลดอาการบวม ช้ำ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ การพักผ่อน พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากเกินไป นอนหลับในท่าที่เหมาะสม โดยอาจใช้หมอนหนุนใต้หัวเข่าเพื่อลดอาการบวมที่ขา ยกขาสูงขึ้นขณะนอน เพื่อช่วยลดอาการบวม การดูแลแผล ทำความสะอาดแผลทุกวันด้วยน้ำเกลือหรือสบู่ที่แพทย์สั่ง ปิดแผลด้วยผ้าพันแผลตามคำแนะนำของแพทย์ อย่าปล่อยให้แผลเปียกน้ำ การสวมใส่ชุดกระชับ สวมใส่ชุดกระชับตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยลดอาการบวมและกระชับผิว สวมใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ยกเว้นตอนอาบน้ำ การออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก หลังจากนั้น สามารถเริ่มออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินหรือว่ายน้ำ ค่อยๆ เพิ่มความหนักของการออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์ การรับประทานอาหาร รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วน 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ของทอด อาหารรสจัด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การติดตามอาการ สังเกตอาการและการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังจากการผ่าตัด หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้หรือหนาวสั่น แผลบวมและแดงเพิ่มขึ้น มีเลือดหรือหนองไหลจากแผล […]