โรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder) โรคกินไม่หยุด หรือ Binge Eating Disorder เป็นภาวะความผิดปกติทางการรับประทานที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการกินของผู้ป่วย โดยลักษณะเด่นคือ ผู้ป่วยจะกินปริมาณอาหารจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งภายใน 2 ชั่วโมงอาจกินได้เท่ากับอาหารถึงมื้อใหญ่ 2-3 มื้อ ในระหว่างที่กินนั้นผู้ป่วยจะรู้สึกสูญเสียการควบคุมและหยุดกินไม่ได้ และหลังจากกินไปแล้วมักจะมีอาการรู้สึกผิด และจิตใจตก อาการโรคกินไม่หยุด กินปริมาณอาหารจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ รู้สึกสูญเสียการควบคุมขณะกิน กินต่อเนื่องแม้ว่าจะรู้สึกแน่นท้องจนไม่สบาย กินคนเดียวโดยแยกตัวจากผู้อื่นเนื่องจากรู้สึกละอาย ซ่อนอาหารหรือกินตามตู้เย็น รู้สึกผิดหลังกินอาหาร สาเหตุโรคกินไม่หยุด ความเครียดและความวิตกกังวล ประวัติความผิดปกติทางจิตใจอื่นๆ เช่น โรคซึมเศร้า ปัจจัยทางพันธุกรรม ปัจจัยทางชีวภาพ การรักษาโรคกินไม่หยุด โรคกินไม่หยุดสามารถรักษาได้ด้วยการบำบัดทางจิต และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยวิธีการรักษาหลักมีดังนี้ การบำบัดทางจิต: การบำบัดทางจิตจะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจสาเหตุและปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการ พร้อมกับพัฒนากลไกการรับมือและทักษะการจัดการความเครียด การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน: เป้าหมายหลักคือการช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมปริมาณและความถี่ในการกินได้ โดยจะมีการสอนผู้ป่วยเกี่ยวกับโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ และการรับมือกับพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม ยา: ในบางกรณี แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาเพื่อลดความอยากอาหารและควบคุมพฤติกรรมการกิน## โรคกินไม่หยุด คืออะไร แก้ยังไง มาทำความรู้จักกับโรคนี้กัน บทสรุป โรคกินไม่หยุดหรือโรคไบพีโอเลอร์ (Binge-eating […]
Category Archives: Blog
บทนำ รักแร้ปลิ้น เป็นปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อความมั่นใจและความสบายใจในตัวเอง โดยเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น การสะสมไขมันส่วนเกินตามบริเวณรักแร้ กล้ามเนื้อบริเวณรักแร้อ่อนแรง หรือภาวะน้ำหนักตัวเกิน การแก้ไขปัญหารักแร้ปลิ้นสามารถทำได้ทั้งแบบชั่วคราวและแบบถาวร วิธีแก้ไขปัญหารักแร้ปลิ้นแบบชั่วคราว การสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม: สวมเสื้อที่มีขนาดพอดีและหลวมสบาย เพื่อลดการเสียดสีและระคายเคืองบริเวณรักแร้ การใช้โรลออนหรือสเปรย์ระงับกลิ่นกาย: ช่วยลดเหงื่อและกลิ่นตัว ซึ่งเป็นสาเหตุของความอับชื้นและการเกิดการระคายเคือง การใช้อุปกรณ์เสริม: เช่น แผ่นปิดหรือฟองน้ำปิดรักแร้ เพื่อซับเหงื่อและลดการเสียดสี วิธีแก้ไขปัญหารักแร้ปลิ้นแบบถาวร การออกกำลังกาย: เพิ่มกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกและไหล่ เพื่อช่วยดึงผิวหนังบริเวณรักแร้ให้ตึงขึ้น หัตถการฉีดโบท็อกซ์: ฉีดสารโบท็อกซ์เพื่อทำให้กล้ามเนื้อบริเวณรักแร้อ่อนแอลง ลดการหดตัวจนเกิดรักแร้ปลิ้น หัตถการลดไขมัน: เช่น การดูดไขมันหรือการใช้เทคโนโลยีคลื่นความร้อน เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณรักแร้ การผ่าตัด: เป็นวิธีสุดท้ายที่ใช้แก้ไขปัญหารักแร้ปลิ้น เมื่อวิธีอื่นไม่สามารถช่วยได้ โดยการผ่าตัดจะนำเนื้อเยื่อไขมันส่วนเกินออกและเย็บหนังใหม่เพื่อให้ตึงขึ้น ข้อแนะนำเพิ่มเติม รักษาความสะอาดบริเวณรักแร้เป็นประจำ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ลดน้ำหนักหากมีน้ำหนักเกิน ปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
การดูดไขมันต้นขาร่วมกับการตัดหนัง (Liposuction & Thigh Lift) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาต้นขากระชับยาก เนื่องจากมีไขมันสะสมบริเวณต้นขาบน และมีหนังส่วนเกินที่บริเวณต้นขาด้านใน ทำให้ดูหย่อนคล้อยไม่กระชับ ดังนั้นการดูดไขมันบริเวณต้นขาด้านบน ร่วมกับการตัดหนังส่วนเกินจึงช่วยให้ต้นขาดูเรียวกระชับ นอกจากนี้การผ่าตัดดูดไขมันต้นขายังเหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และต้องการลดต้นขาโดยเฉพาะเจาะจง อย่างไรก็ตามแพทย์อาจแนะนำให้ลดน้ำหนักจนได้น้ำหนักที่เหมาะสมก่อน เพราะหากรีบผ่าตัดดูดไขมันต้นขาเลยอาจเกิดปัญหาหนังหย่อนคล้อย หากน้ำหนักกลับขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะสามารถดูดไขมันต้นขาได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำแนะนำและการประเมินของแพทย์ ดังนั้นหากความต้องการดูดไขมันต้นขา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและแนวทางการรักษาที่เหมาะสมต่อไป## ดูดไขมันต้นขา ร่วมกับการตัดหนัง (Liposuction & Thigh Lift) เหมาะกับใคร บทนำ การ ดูดไขมันต้นขา ร่วมกับการ ตัดหนังต้นขา เป็นการผ่าตัดตกแต่งเพื่อลดไขมันและกระชับผิวบริเวณต้นขา โดยเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาต้นขาใหญ่ มีเซลลูไลท์ หรือผิวหย่อนคล้อย ทั้งนี้ การผ่าตัดดังกล่าวมีข้อบ่งชี้และข้อควรระวัง ดังนี้ ข้อบ่งชี้ มีไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขา ทั้งด้านนอกและด้านใน มีปัญหาเซลลูไลท์ ที่ทำให้ผิวบริเวณต้นขาขรุขระ ผิวหย่อนคล้อยบริเวณต้นขา เนื่องจากการลดน้ำหนักหรืออายุที่เพิ่มขึ้น ต้องการปรับปรุงรูปร่างต้นขา ให้ดูเรียวกระชับขึ้น สุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรง ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหรือโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการผ่าตัด ข้อควรระวัง การผ่าตัดนี้ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือมีโรคอ้วน […]
หน้าผากย่น แก้ยังไง วิธีจัดการริ้วรอยแห่งวัย บอกลารอยย่น ปัญหาหน้าผากย่นเป็นเรื่องที่กวนใจใครหลายๆ คน เพราะทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากกว่าวัย เกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสีหน้าบ่อยๆ ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น หรือแสงแดดทำร้ายผิวหนัง หากต้องการจัดการริ้วรอยแห่งวัยอย่างหน้าผากย่น วิธีต่อไปนี้อาจช่วยได้ ทาครีมกันแดดทุกวัน: แสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นการทาครีมกันแดดทุกวันจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ ใช้มอยส์เจอไรเซอร์: มอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ลดโอกาสการเกิดริ้วรอย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวหนังซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น ลดการเกิดริ้วรอย เลิกสูบบุหรี่: สารเคมีในบุหรี่ทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายยิ่งขึ้น ฉีดโบท็อกซ์: โบท็อกซ์เป็นสารที่ใช้ฉีดเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้ริ้วรอยลดลง เห็นผลได้ชัดเจน แต่ต้องฉีดซ้ำทุก 3-6 เดือน เติมเต็มริ้วรอยด้วยสารเติมเต็ม: สารเติมเต็มอย่างไฮยาลูรอนิคแอซิดสามารถฉีดเติมเต็มริ้วรอยได้ ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่ถาวร เลเซอร์ลบรอยเหี่ยวย่น: เลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นขึ้น ลดริ้วรอยก่อนวัย การจัดการหน้าผากย่นต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ หากมีวินัยในการดูแลผิวและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอย ก็จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยและคงความอ่อนเยาว์ได้นานยิ่งขึ้น
ดูดไขมันกับหมอหนึ่งและทีมแพทย์ดูดไขมันที่รัตตินันท์คลินิกดีอย่างไร การดูดไขมันคือวิธีการกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยให้รูปร่างกระชับและได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้วการดูดไขมันจะใช้สำหรับกำจัดไขมันที่บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และหลัง การดูดไขมันกับหมอหนึ่งและทีมแพทย์ที่รัตตินันท์คลินิกนั้นมีข้อดีหลายประการ เช่น ความปลอดใหม่มั่นใจได้ หมอหนึ่งและทีมแพทย์ล้วนเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง และได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พวกเขาใช้เทคนิคการดูดไขมันที่ทันสมัยและปลอดภย เพื่อให้ได้ผลลัพธที่ดีที่สุดในขณะที่ยังคงคำนึงถึงความปลอดของคนไข้เป็นอันดับแรกเสมอ อุปกรณ์ที่ทันสมัย รัตตินันท์คลินิกใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการดูดไขมัน ซึ่งช่วยให้สามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยลดบรละน้อยลงเลือดและความเจ็บขณะทำการรักษา เทคนิคการดูดไขมันขั้นสูง หมอหนึ่งและทีมแพทย์ใช้เทคนิคขั้นสูงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการดูดไขมัน เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้สามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้อย่างแม่นยำในขณะที่ยังคงรักษาความปลอดของหนังและผิวหนังโดยรอบไว้ ผลลัพธที่เป็นธรรมชาติ การดูดไขมันกับหมอหนึ่งและทีมแพทย์จะได้ผลลัพธที่เป็นธรรมชาติ ผิวหนังที่หย่อนคล้อยจะกระชับขึ้นรูปร่างจะได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น และรู้สึกมั่นใจในรูปลงมายของตนเอง นอกเหนือจากข้อดีที่กล่าวมาแล้ว การดูดไขมันกับหมอหนึ่งและทีมแพทย์ที่รัตตินันท์คลินิกยังมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและการบริการที่เป็นเลิศ หมอและทำงานร่วมกับหมอหม่เพื่อเลือกเทคนิคการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละกรณี และให้คำปรึกษาทุกขั้นตอนเพื่อให้ความเข้าใจและมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับผลลัพธที่ดีที่สุด
การนอนกรนเป็นปัญหาที่พบบ่อยส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตทั้งตัวผู้กรนและคนรอบข้าง ซึ่งการรักษานั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุ โดยส่วนใหญ่มักจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ในปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ที่สามารถรักษาอาการนอนกรนได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ทรีตเมนต์การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัดทำได้ไหม คำตอบคือได้ ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) หรือ CPAP เทคโนโลยีที่ใช้แรงดันลมอัดต่อเนื่อง เพื่อเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง ซึ่งจะช่วยลดการอุดกั้นของทางเดินหายใจขณะนอนหลับ อีกทั้งยังสามารถปรับแรงดันลมให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายได้ ช่วยลดการนอนกรนและทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น โดยวิธีนี้ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำได้ที่บ้านด้วยตนเอง ข้อดีของการรักษาแบบ CPAP ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทำได้ที่บ้านด้วยตนเอง ลดการนอนกรนและทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น ปรับแรงดันลมได้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย ช่วยให้นอนหลับได้ยาวนานและมีคุณภาพมากขึ้น หากคุณมีปัญหาเรื่องการนอนกรน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep Apnea) ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด## รักษาโรคนอนกรนโดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว ทำได้ไหม บทสรุป โรคนอนกรนเป็นภาวะที่มีอาการกรนขณะนอน ก่อให้เกิดปัญหากับทั้งผู้ป่วยและผู้อยู่รอบข้าง และอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่รุนแรงกว่านี้ได้ การรักษาโรคนอนกรนสามารถทำได้โดยใช้เทคนิคต่างๆ ซึ่งบางเทคนิคสามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น บทนำ โรคนอนกรนเป็นภาวะทางการแพทย์ที่พบได้ทั่วไป ซึ่งมีอาการหลักคือการกรนขณะนอน การกรน เกิดจากการที่มีอากาศไหลผ่านเนื้อเยื่อในทางเดินหายใจตอนบน ซึ่งทำให้เกิดการสั่นและเสียงในบางครั้ง โรคนอนกรนสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนของทั้งผู้ป่วยและผู้อยู่รอบข้างอย่างมาก และยังอาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพที่รุนแรงกว่านี้ เช่น […]
วิธีลดพุง สำหรับคนไม่มีเวลา มาพร้อมตัวช่วยมากมาย เห็นผลจริง สำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการออกกำลังกาย การลดพุงอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ ลองใช้วิธีเหล่านี้ดู รับรองได้ผลแน่นอน ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน เป็นวิธีลดพุงที่ได้ผลดีที่สุด ควรกินอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และกินโปรตีนให้เพียงพอ ช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ลดความอยากกินจุกจิกได้ ดื่มน้ำมากๆ น้ำช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่ม และยังช่วยเร่งการเผาผลาญได้ นอนหลับให้เพียงพอ เมื่อนอนหลับไม่เพียงพอ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นความอยากอาหาร ทำให้กินมากขึ้น ออกกำลังกายง่ายๆ ไม่ต้องไปยิม ก็ออกกำลังกายลดพุงได้ ลองกระโดดเชือก วิ่งเหยาะๆ หรือทำท่า Plank วันละ 10-15 นาที ใช้อุปกรณ์ช่วยลดพุง เช่น เข็มขัดรัดพุง แผ่นแปะลดพุง หรือเครื่องออกกำลังกายเฉพาะส่วน ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการลดพุงได้ แต่ควรใช้ควบคู่กับวิธีอื่นๆ การลดพุงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป ลองใช้วิธีเหล่านี้ดู รับรองว่าทำได้แน่นอน
รอยแตกลายมี 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้ 1. รอยแตกลายสีแดงหรือม่วง (Striae rubra หรือ Striae violacea) รอยแตกลายประเภทนี้พบในระยะแรกเริ่มของการเกิดรอยแตกลาย เกิดจากการฉีกขาดของชั้นหนังแท้ชั้นกลาง (Middle Dermis) ซึ่งเป็นชั้นที่มีเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินมาก ทำให้เลือดออกในชั้นใต้ผิวหนัง และผลักขึ้นมาในชั้นผิวหนังกำพร้า เราจึงมองเห็นรอยเป็นเส้นสีแดงหรือม่วง ซึ่งมักเกิดจากการขยายตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็ว เช่น ในวัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโต หญิงตั้งครรภ์ หรือบุคคลที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 2. รอยแตกลายสีขาว (Striae alba) รอยแตกลายประเภทนี้พบในระยะหลังของการเกิดรอยแตกลาย เกิดจากการซ่อมแซมตัวเองของผิวหนัง โดยเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ถูกทดแทนด้วยเส้นใยที่เล็กและเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นขาดความยืดหยุ่นและแข็งแรง ผิวหนังจึงเกิดการยุบตัวลงและเห็นเป็นเส้นสีขาว บ่อยครั้งที่บริเวณรอยแตกลายอาจมีเนื้อนูนเล็กๆ เนื่องจากมีเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินคั่งอยู่ใต้ผิว ซึ่งทำให้รอยแตกลายประเภทนี้รักษายากกว่ารอยแตกลายสีแดงหรือม่วง## รอยแตกลายมีกี่ประเภท ต้องรักษาอย่างไรให้ผิวเนียน บทสรุป รอยแตกลายเกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิง เกิดจากการที่ผิวหนังขยายตัวและหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดรอยฉีกขาดใต้ผิวหนัง มีลักษณะเป็นเส้นนูนสีแดงม่วงหรือสีขาว มักพบตามบริเวณหน้าท้อง ต้นขา สะโพก และหน้าอก การรักษาขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความรุนแรงของรอยแตกลาย โดยทั่วไปสามารถใช้วิธีธรรมชาติ เช่น ทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ หรือใช้วิธีทางการแพทย์ เช่น เลเซอร์ ผลัดผิวด้วยสารเคมี […]
การเดินทางของฉันในการรักษาหลุมสิวกว่า 6 ปี การต่อสู้กับหลุมสิวของฉันกินเวลายาวนานถึง 6 ปี เป็นการเดินทางที่ท้าทายและทดสอบจิตใจ แต่ฉันก็ไม่เคยยอมแพ้ความหวังที่จะได้ผิวที่ใสไร้หลุม เริ่มแรก ฉันลองใช้ครีมและเซรั่มต่างๆ แต่กลับได้ผลเพียงเล็กน้อย ต่อมา ฉันตัดสินใจลองการรักษาเลเซอร์แบบ Fractional CO2 Laser ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้เลเซอร์สร้างรอยแผลเป็นเล็กๆ บนผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้ชัดเจนในทันที แต่ก็มาพร้อมกับเวลาพักฟื้นที่นาน หลังจาก Fractional CO2 Laser ฉันได้ลองใช้ Microneedling ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้เข็มขนาดเล็กจิ้มบนผิว ผลการรักษามีผลน้อยกว่าเลเซอร์ แต่ก็มีความเจ็บปวดน้อยกว่ามาก ฉันทำ Microneedling หลายครั้ง ร่วมกับการนวดกดจุดเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ในที่สุด ฉันก็ได้รู้จักกับการรักษาด้วย Subcision ซึ่งเป็นเทคนิคการใช้เข็มพิเศษเพื่อตัดพังผืดใต้ผิวที่ดึงรั้งผิวลงมา ก่อให้เกิดหลุมสิว การรักษาด้วย Subcision ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับหลุมสิวของฉัน และเมื่อใช้ร่วมกับเทคนิคอื่นๆ ช่วยให้ผิวของฉันเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเดินทางรักษาหลุมสิวของฉันสอนให้ฉันรู้ว่าความอดทนและความสม่ำเสมอมีความสำคัญมากที่สุด อย่าลืมปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์เพื่อหารือเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษาที่เหมาะกับคุณที่สุด และอย่าท้อถอยหากคุณไม่เห็นผลลัพธ์ในทันที การรักษาหลุมสิวเป็นกระบวนการที่ใช้เวลา แต่ก็คุ้มค่าที่จะรอคอยเล่าประสบการณ์รักษาหลุมสิว 6 ปี กว่าจะได้ผิวนี้ ทำอะไรมาบ้าง บทสรุป การรักษาหลุมสิวเป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ […]
ตัวบวม เกิดจากอะไร ตัวบวม หรือ อาการบวมน้ำ เกิดได้จากหลายสาเหตุ สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่: โรคไต: ไตมีหน้าที่กำจัดของเหลวและเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย เมื่อไตทำงานได้ไม่ดี ก็จะทำให้ของเหลวคั่งในร่างกายแล้วเกิดอาการตัวบวม โรคตับ: ตับมีหน้าที่สร้างโปรตีนที่ช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย เมื่อตับทำงานได้ไม่ดี ก็จะทำให้ระดับโปรตีนในเลือดลดลงและเกิดอาการตัวบวม โรคหัวใจ: หัวใจมีหน้าที่สูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย เมื่อหัวใจทำงานได้ไม่ดี ก็จะทำให้เลือดคั่งในร่างกายและเกิดอาการตัวบวม แพ้ท้อง: ในระหว่างตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงจะเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดการกักเก็บของเหลวและเกิดอาการตัวบวม การกินยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาแก้ปวด และยาคุมกำเนิด อาจทำให้เกิดอาการตัวบวม นั่งหรือนอนในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ: การอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ จะทำให้ของเหลวคั่งในบริเวณแขน ขา หรือเท้าได้ วิธีลดตัวบวมแบบเร่งด่วน วิธีลดตัวบวมแบบเร่งด่วนที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง ได้แก่: ยกแขนขาสูง: การยกแขนขาสูงจะช่วยให้ของเหลวไหลเวียนกลับไปที่หัวใจได้ดีขึ้น นวดระบายน้ำเหลือง: การนวดระบายน้ำเหลืองเป็นการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง ทำให้ของเหลวส่วนเกินถูกขับออกจากร่างกาย ประคบเย็น: การประคบเย็นบริเวณที่บวมจะช่วยลดการอักเสบและความเจ็บปวด ดื่มน้ำเปล่ามากๆ: การดื่มน้ำเปล่ามากๆ จะช่วยเจือจางของเหลวในร่างกายและช่วยให้ร่างกายขับของเหลวส่วนเกินออกได้ดียิ่งขึ้น ลดการกินอาหารที่มีเกลือ: การกินอาหารที่มีเกลือมากๆ จะทำให้ร่างกายกักเก็บของเหลวได้มากขึ้น หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายกักเก็บของเหลวได้มากขึ้น หากอาการตัวบวมไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรง […]