Category Archives: Blog

ฤกษ์คลอดปี 2567

ฤกษ์คลอดปี 2567 สรุปประเด็นหลัก ฤกษ์คลอดเป็นวันและเวลาที่กำหนดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับเด็กที่จะเกิดมา ในปี 2567 มีฤกษ์คลอดที่เหมาะสมหลายช่วง โดยพิจารณาจากหลักโหราศาสตร์ไทยโบราณผสมผสานกับหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ บทนำ การมีบุตรเป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีสำหรับครอบครัวเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงไม่อาจละเลยความสำคัญในการเตรียมความพร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ การกำหนดฤกษ์คลอดจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ครอบครัวสามารถเตรียมความพร้อมได้อย่างเหมาะสม ฤกษ์คลอดที่เราจะมานำเสนอนั้นเป็นฤกษ์คลอดทั่วประเทศ ไม่จำเพาะเจาะจงที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ลูกที่เกิดวันนี้มาเป็นเพศหญิงเป็นส่วนใหญ่ และมีโอกาสผ่าคลอดมากกว่าคลอดเอง ฤกษ์คลอดแต่ละเดือนในปี 2567 เดือนมกราคม วันอังคารที่ 3 มกราคม 2567 เวลา 10.39 – 12.08 น. วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2567 เวลา 07.36 – 09.10 น. วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2567 เวลา 15.10 – 16.42 น. เดือนกุมภาพันธ์ วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 07.04 – 08.42 […]

ฤกษ์คลอดลูก 2567

ฤกษ์คลอดบุตรปี 2567 การตั้งครรภ์ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญและน่ายินดีสำหรับครอบครัวทั้งหลาย การเลือกฤกษ์คลอดบุตรจึงเป็นสิ่งที่คู่สมรสให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเชื่อกันว่าฤกษ์ที่ดีจะช่วยให้บุตรเกิดมามีสุขภาพแข็งแรง มีวาสนา โชคชะตาดี และประสบความสำเร็จในชีวิต ฤกษ์คลอดบุตรปี 2567 สำหรับปี 2567 นั้น มีฤกษ์คลอดบุตรที่เป็นมงคลหลายช่วงเวลาด้วยกัน ได้แก่ เดือนมกราคม: วันที่ 1, 14, 28 เดือนกุมภาพันธ์: วันที่ 4, 12, 26 เดือนมีนาคม: วันที่ 4, 10, 24 เดือนเมษายน: วันที่ 2, 16, 30 เดือนพฤษภาคม: วันที่ 1, 14, 28 เดือนมิถุนายน: วันที่ 12, 19 เดือนกรกฎาคม: วันที่ 13, 24 เดือนสิงหาคม: วันที่ 8, 22 เดือนกันยายน: วันที่ 11, […]

ฤกษ์คลอด 67

ฤกษ์คลอด 2567 ฤกษ์คลอดคือช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการคลอดบุตร โดยพิจารณาจากหลักโหราศาสตร์และความเชื่อแต่โบราณ โดยเชื่อว่าหากคลอดบุตรในฤกษ์ดีจะทำให้เด็กที่เกิดมามีสุขภาพแข็งแรง โชคดี และประสบความสำเร็จในชีวิต ฤกษ์คลอดมงคล 2567 เดือนมกราคม: วันที่ 1, 6, 11, 16, 21, 26, 31 เดือนกุมภาพันธ์: วันที่ 5, 10, 15, 20, 25 เดือนมีนาคม: วันที่ 2, 7, 12, 17, 22, 27 เดือนเมษายน: วันที่ 1, 6, 11, 16, 21, 26 เดือนพฤษภาคม: วันที่ 5, 10, 15, 20, 25, 30 เดือนมิถุนายน: วันที่ 4, 9, 14, 19, […]

28 พฤษภาคม วันสุขบัญญัติแห่งชาติ ส่งเสริมให้คนไทยรักความสะอาด

28 พฤษภาคม วันสุขบัญญัติแห่งชาติ วันที่ส่งเสริมให้คนไทยรักความสะอาด วันที่ 28 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันสุขบัญญัติแห่งชาติ วันสำคัญที่กำหนดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนไทยตระหนักและเห็นความสำคัญของการรักษาความสะอาด โดยมีที่มาจากพระราชบัญญัติสุขบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ที่ได้ประกาศบังคับใช้ในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติสุขบัญญัติแห่งชาติ กำหนดให้หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิน และประชาชนทั่วไป ร่วมกันดำเนินการเพื่อส่งเสริมและรักษาความสะอาดของบ้านเมือง ทั้งการกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล การบำบัดน้ำเสีย การควบคุมมลพิษทางอากาศ และการจัดการขยะมูลฝอยอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ: ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ สร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาด สวยงาน และน่าอยู่ ส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีให้กับประชาชน

ฉีดน้ำหอมแล้วกลิ่นเพี้ยน เกิดจากอะไร แนะนำวิธีที่ทำให้น้ำหอมกลิ่นติดทนนาน

ปัจจัยที่ทำให้กลิ่นน้ำหอมเพี้ยน สภาพผิว: ผิวที่แห้งจะดูดซับน้ำหอมได้น้อยกว่าผิวที่มัน ซึ่งจะทำให้กลิ่นจางลงได้ง่าย ปฏิกิริยากับเคมีในร่างกาย: น้ำหอมอาจทำปฏิกิริยากับเคมีในร่างกาย เช่น กรดบนผิว ซึ่งอาจทำให้กลิ่นเพี้ยนได้ สภาพอากาศ: อุณหภูมิและความชื้นสามารถส่งผลต่อการกระจายตัวของกลิ่นน้ำหอม การเก็บรักษา: การเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้กลิ่นน้ำหอมเสื่อมสภาพได้ เช่น การสัมผัสกับแสงแดดหรือความร้อน น้ำหอมปลอม: น้ำหอมปลอมมักมีส่วนผสมที่แตกต่างจากน้ำหอมแท้ ซึ่งอาจทำให้กลิ่นเพี้ยนได้ วิธีที่ทำให้น้ำหอมติดทนนาน ลงน้ำหอมบนจุดชีพจร: จุดชีพจร เช่น ข้อมือ คอ และข้อพับด้านในข้อศอก เป็นจุดที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งจะช่วยให้น้ำหอมกระจายกลิ่นได้ดีขึ้น ลงน้ำหอมหลังอาบน้ำ: ผิวที่เปียกชื้นจะดูดซับน้ำหอมได้ดีกว่าผิวที่แห้ง หลีกเลี่ยงการถูข้อมือที่ลงน้ำหอม: การถูจะทำให้โมเลกุลของน้ำหอมแตกตัว ทำให้กลิ่นจางลงได้เร็วขึ้น ลงน้ำหอมในปริมาณที่เหมาะสม: การลงน้ำหอมมากเกินไปอาจทำให้กลิ่นฉุนและไม่เป็นที่พอใจ ลงน้ำหอมในบริเวณที่มีเสื้อผ้าปกคลุม: เสื้อผ้าจะช่วยกักเก็บกลิ่นน้ำหอมได้ ใช้โลชั่นหรือวาสลีนร่วมด้วย: การใช้โลชั่นหรือวาสลีนก่อนลงน้ำหอมจะช่วยกักเก็บกลิ่นได้นานขึ้น พกน้ำหอมติดตัว: พกน้ำหอมขนาดเล็กติดตัวไว้ เพื่อเติมระหว่างวันตามต้องการ

คำถามที่พบบ่อยเรื่องฉีดไขมันหน้า (fat Grafting) อัปเดต ปี 2024

คำถามที่พบบ่อยเรื่องฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting) อัปเดตปี 2024 การฉีดไขมันหน้า หรือ Fat Grafting เป็นเทคนิคการเสริมความงามบนใบหน้าที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยกระบวนการหลักคือการนำไขมันจากบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา มาผ่านกระบวนการเตรียม แล้วนำมาฉีดเข้าบริเวณใบหน้าที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เต็มอิ่ม ยกกระชับ หรือแก้ไขริ้วรอยต่างๆ เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 1. ฉีดไขมันหน้าเหมาะกับใครบ้าง ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าตอบ แก้มตอบ ขมับตอบ ใต้ตาตอบ ผู้ที่ต้องการแก้ไขริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ผู้ที่ต้องการเสริมคางให้ได้รูป ผู้ที่มีโหนกแก้มสูงแล้วต้องการปรับให้เข้ารูป ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้สมส่วนและเป็นธรรมชาติ 2. ขั้นตอนการฉีดไขมันหน้าเป็นอย่างไร ขั้นตอนการฉีดไขมันหน้าโดยทั่วไปมีดังนี้ ดูดไขมันจากบริเวณที่ต้องการ เช่น หน้าท้อง ต้นขา เตรียมไขมันโดยการแยกเอาเซลล์ไขมันที่สมบูรณ์ออกจากเลือดและของเหลว ฉีดไขมันเข้าบริเวณใบหน้าที่ต้องการโดยใช้เข็มขนาดเล็ก 3. การฉีดไขมันหน้าใช้เวลาเท่าไหร่ ระยะเวลาในการฉีดไขมันหน้าแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ฉีดและบริเวณที่ฉีด โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง 4. ฉีดไขมันหน้าเจ็บไหม ในระหว่างการฉีดไขมันหน้าจะมีการฉีดยาชาบริเวณที่ดูดไขมันและบริเวณที่ฉีดเข้าใบหน้า ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ อย่างไรก็ตาม อาจรู้สึกปวดตึงเล็กน้อยหลังทำ 5. ผลลัพธ์ของการฉีดไขมันหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน […]

ประคบร้อนหลังดูดไขมัน ช่วยลดบวมได้จริงไหม

ประคบร้อน หลังดูดไขมัน ช่วยลดบวมได้จริงหรือไม่ การประคบร้อนเป็นวิธีการรักษาแบบดั้ง เดิมที่ใช้เพื่อลดอาการปวดและบวม การประคบร้อนจะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดนำพาเม็อดสีขาวที่จะมากินเซลล์ที่ตายแล้วและนำเอาของเสียออกจากร่างการ รวมถึงลดอาการ การอักเสบได้ ทาให้ลดอาการปวด บวม ได้ การประคบร้อนโดยใช้น้ำอุ่นไม่เกิน 45-50 องศาเซลเซียส โดยใช้ผ้าขนหนูสะอาดชุบน้ำและวางลงไปบริเวณที่ บวม แนะนำว่าให้ประคบครั้งละ 15-20 นาที ประคบได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แต่ไม่ควรร้อนจนเกินไป และไม่ ควรประคบโดยตรงบริเวณผิวหนัง โดยให้ประคบบนผ้าที่ปิดทับผิวหนังอีกชั้น ทั้งนี้การประคบร้อนจะต้องกระ ทาอย่างอ่อนโยน ไม่ถูหรือกดบริเวณที่บวมแรงเกินไป การประคบร้อนสามารถใช้เป็นวิธีการเส ริมในการดูแลแผล หลังดูดไขมันได้ หากผู้เข้ารับบริการรู้สึกว่ามีอาการปวดหรือบวม แต่ควรรอ หลังจากวันผ่า ตัด 2-3วัน ทั้งนี้หากมีอาการปวดหรือบวมใน ในช่วงแรกๆ ก็สามารถใช้ผ้าเย็นประคบสลับกันได้ ซึ่ง การประคบร้อนจะไม่ใช้ในช่วงระยะ 2-3วันแรกๆ หลังผ่า เพราะอาจจะทำให้มีเลือดออกได้ ดังนั้นหาก ต้องการใช้วิธีการประคบร้อนในการลดอาการปวดหรือบวมภายหล้งจากการ ดูดไขมัน ผู้เข้ารับบริการจึงควรรอให้เข้าสู่ระยะวันที่ 3 ขึ้นไปแล้วจึงค่อยประคบ## ประคบร้อนหลังดูดไขมัน ช่วยลดบวมได้จริงหรือไม่ หลังจากการดูดไขมัน ร่างกายจะมีอาการบวมช้ำเป็นเรื่องปกติ อาการบวมช้ำเหล่านี้จะค่อยๆ ยุบลงภายใน […]

ผลไม้ลดบวมหลังศัลยกรรม ที่ช่วยฟื้นฟูแผลให้หายเร็ว มีอะไรบ้าง

ผลไม้ลดบวมหลังศัลยกรรม ช่วยฟื้นฟูแผลให้หายเร็ว หลังจากการผ่าตัดศัลยกรรม ผู้ป่วยมักประสบปัญหาอาการบวมบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งเป็นผลจากการอักเสบและบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ผลไม้บางชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและบวม ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูแผลให้หายเร็วขึ้นได้ ดังนี้ 1. สัปปะรด มีสารโบรมีเลนที่ช่วยลดการอักเสบและการบวม 2. มะละกอ มีเอนไซม์ Papain สรรพคุณช่วยย่อยโปรตีน ลดการอักเสบ บวม ช้ำ บรรเทาอาการเจ็บปวด 3. มะม่วงดิบ มีสารแทนนินและเพกติน ช่วยสมานแผล หยุดเลือด แก้ช้ำ ป้องกันการติดเชื้อ 4. องุ่น มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบและบวม 5. ทับทิม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดการอักเสบ ลดอาการบวม 6. ส้ม มีวิตามินซีสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เสริมสร้างความแข็งแรงให้หลอดเลือดและเนื้อเยื่อ ซึ่งช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูบาดแผลได้เร็วขึ้น 7. แคนตาลูป มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยต้านการอักเสบ ลดการบวม 8. กีวี มีวิตามินซีและวิตามินอีสูง ช่วยลดการอักเสบและบวม บรรเทาอาการปวด การรับประทานผลไม้เหล่านี้หลังผ่าตัดศัลยกรรม นอกจากจะช่วยลดการบวมและฟื้นฟูแผลให้หายเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่ออีกด้วย

คลินิกดูดไขมัน ใกล้ฉัน ดูดไขมันที่ไหนดีในกรุงเทพ

คลินิกดูดไขมัน ใกล้ฉัน การดูดไขมันเป็นขั้นตอนเครื่องสำอางที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย ช่วยให้คุณมีรูปร่างที่กระชับและผอมเพรียวมากขึ้น หากคุณกำลังมองหาคลินิกดูดไขมันที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ต่อไปนี้คือแนวทางที่จะช่วยคุณ: คลินิกดูดไขมันชั้นนำในกรุงเทพฯ APEX Profound Beauty: คลินิกที่มีชื่อเสียงด้านการดูดไขมันแบบเฟเซอร์และการรักษาทางสุนทรียภาพชั้นสูงอื่นๆ The Klinique: คลินิกที่ได้รับรางวัลซึ่งเชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันด้วยเทคนิคสมัยใหม่ต่างๆ Yanhee Hospital: โรงพยาบาลชั้นนำที่ให้บริการดูดไขมันในราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพ Kamol Cosmetic Hospital: โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งที่เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันด้วยวิธีต่างๆ รพ. พญาไท 2: โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่ให้บริการการดูดไขมันโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกคลินิก ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์: ตรวจสอบว่าคลินิกมีความเชี่ยวชาญในการดูดไขมันและศัลยแพทย์มีประสบการณ์กี่ปี เทคโนโลยี: เลือกคลินิกที่ใช้เทคโนโลยีการดูดไขมันที่ทันสมัย เช่น เลเซอร์หรือคลื่นเสียงความถี่สูง ความปลอดภัย: ตรวจสอบว่าคลินิกได้รับการรับรองและมีชื่อเสียงดีในการรักษาความปลอดภัย ผลลัพธ์: ขอให้ได้เห็นภาพก่อนและหลังของผู้ป่วยที่เคยรับการดูดไขมันกับคลินิก ราคา: เปรียบเทียบราคาของคลินิกต่างๆ และรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น ค่าดมยาสลบและค่าพักฟื้น การเลือกคลินิกดูดไขมันที่เหมาะสมในกรุงเทพฯ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ใช้เวลาวิจัยและพิจารณาปัจจัยที่ระบุไว้อย่างรอบคอบ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ## คลินิกดูดไขมัน ใกล้ฉัน ดูดไขมันที่ไหนดีในกรุงเทพ คำนำ ในปัจจุบันการดูดไขมันเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การดูดไขมันทำได้ง่าย สะดวก และน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก คลินิกดูดไขมัน […]

เหนื่อยง่าย ปัญหาของโรคอ้วน แก้ปัญหาด้วยการผ่าตัดกระเพาะ

เหนื่อยง่าย อาจเป็นอาการหนึ่งของโรคอ้วน แก้ปัญหาด้วยผ่าตัดกระเพาะได้จริงหรือ การมีน้ำหนักตัวมากเกินเกณฑ์หรือโรคอ้วน ไม่ใช่แค่ทำให้รูปร่างไม่สวยงามเพียงอย่างเดียว หากแต่มันยังนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพมากมาย ทั้งโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคข้อเข่าเสื่อม แม้แต่การหายใจ ก็ยังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำหนักเกิน อาการเหนื่อยง่ายเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบอกโรคอ้วน เมื่อร่างกายมีน้ำหนักมากแม้ไม่ได้ออกแรงก็จะรู้สึกเหนื่อยได้ ซึ่งเป็นผลมาจากหัวใจและปอดต้องทำงานหนักขึ้นเนื่องจากต้องลำเลียงเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย และเมื่อออกแรงก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นไปอีก นอกจากอาการเหนื่อยง่ายแล้ว โรคอ้วนยังแสดงอาการต่างๆ ได้ดังนี้ นอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ เหนื่อยหอบขณะนอนราบ ปวดหลังเรื้อรัง มีปัญหาทางอารมณ์ เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล ตามปกติแพทย์จะแนะนำให้ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่ในกรณีที่มีน้ำหนักมากหรือมีโรคแทรกซ้อน แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดกระเพาะ เพื่อลดขนาดของกระเพาะอาหารให้เล็กลง ทำให้ผู้ป่วยทานอาหารได้น้อยลงและอิ่มเร็วขึ้น ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นการรักษาที่ได้ผล แต่ผู้ป่วยยังคงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย## เหนื่อยง่าย ปัญหาของโรคอ้วน แก้ปัญหาด้วยการผ่าตัดกระเพาะ บทสรุป โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลีย ผ่าตัดกระเพาะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยง่ายและป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน บทนำ โรคอ้วนเป็นภาวะที่มีการสะสมไขมันในร่างกายมากเกินไป เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคต่างๆ มากมาย รวมถึงโรคหัวใจ, เบาหวาน และความดันโลหิตสูง โรคอ้วนยังสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ […]