อาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ผสมวิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อผู้สูงอายุ โดยช่วยชดเชยการรับประทานอาหารที่ไม่เพียงพอหรือการดูดซึมสารอาหารที่ลดลงตามวัย ผู้สูงอายุควรเลือกอาหารเสริมที่เหมาะสมกับความต้องการทางโภชนาการของตนเอง โดยปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร อาหารเสริมบางชนิดที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ได้แก่ วิตามินบีรวม ช่วยเพิ่มพลังงานและความจำ วิตามินซี ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน แคลเซียมและวิตามินดี ช่วยเสริมสร้างกระดูก โอเมก้า-3 ช่วยบำรุงหัวใจและสมอง อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารเสริมไม่ควรทดแทนการรับประทานอาหารปกติ ผู้สูงอายุควรเน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีน## อาหารเสริมเพื่อผู้สูงอายุ คำนำ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะเริ่มเสื่อมสภาพ การรับประทานอาหารที่สมดุลและการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งก็ไม่เพียงพอที่จะให้สารอาหารที่ร่างกายเราต้องการ อาหารเสริมสามารถเป็นวิธีที่ดีในการเติมเต็มช่องโหว่เหล่านี้และช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ต่อไปนี้คืออาหารเสริม 5 อย่างที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ วิตามินดี วิตามินดีเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ วิตามินดีสามารถรับได้จากแสงแดด แต่ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะได้รับวิตามินดีน้อยลงเนื่องจากพวกเขาใช้เวลาน้อยลงกลางแจ้ง อาหารเสริมวิตามินดีสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุดูดซึมแคลเซียมและรักษาสุขภาพกระดูกให้แข็งแรงได้ แคลเซียม แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับสุขภาพกระดูกและฟัน ผู้สูงอายุมีความต้องการแคลเซียมมากกว่ากลุ่มประชากรอื่นเนื่องจากพวกเขามีแนวโน้มที่จะสูญเสียมวลกระดูกมากขึ้น อาหารเสริมแคลเซียมสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุรักษาสุขภาพกระดูกให้แข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกพรุน กลูโคซามีน กลูโคซามีนเป็นสารอาหารที่พบในกระดูกอ่อนและของเหลวที่หล่อลื่นข้อต่อ กลูโคซามีนสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและเสริมสร้างสุขภาพข้อต่อได้ อาหารเสริมกลูโคซามีนสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุบรรเทาอาการปวดข้อและปรับปรุงการเคลื่อนไหวข้อต่อได้ โอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมก้า 3 […]
Category Archives: Blog
แผนอาหารดีท็อกซ์หลังวันหยุด สรุป หลังจากที่เราได้เฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุดกันเเบบเต็มอิ่มแล้ว ร่างกายของเราก็ได้สะสมเอาสารพิษต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากอาหารที่รับประทานเข้าไป หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสุดท้ายลงท้ายด้วยความรู้สึกท้องอืด แน่นท้อง ไม่กระปรี้กระเปร่า และอ่อนเพลีย ซึ่งวิธีที่จะช่วยเราได้ดีมากๆ วิธีหนึ่ง คือ การดีท็อกซ์ร่างกายให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง และบทความนี้จะมาเเนะนำเเผนการทานอาหารดีท็อกซ์ 7 วัน แบบละเอียดยิบ พร้อมวิธีปฏิบัติตัว ที่จะช่วยให้คุณกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง เก المقدนำ การดีท็อกซ์เป็นกระบวนการที่ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้ร่างกายได้พักจากอาหารที่ย่อยยากเป็นเวลานานๆ ซึ่งการดีท็อกซ์จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารได้กลับมาทำงานได้เป็นปกติอีกครั้ง และยังช่วยลดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้น และช่วยลดการอักเสบในร่างกาย โดยอาหารที่ควรรับประทานในช่วงดีท็อกซ์นั้น จะเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยผัก ผลไม้ และน้ำผลไม้ และหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป และอาหารที่มีน้ำตาลสูง ตารางแผนการทานอาหารดีท็อกซ์ 7 วัน วันเเรก อาหารเช้า: น้ำผลไม้ปั่นจากผักและผลไม้ อาหารกลางวัน: สลัดผัก ผลไม้ และถั่ว อาหารเย็น: ปลาอบหรือย่าง ผักนึ่ง และข้าวกล้อง วันที่สอง อาหารเช้า: โยเกิร์ตกับผลเบอร์รี่ และกราโนล่า […]
6 เมนูสลัดทำง่ายใน 7 นาที เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสดชื่นด้วยเมนูสลัดที่ทำง่ายแสนง่าย ใช้เวลาไม่เกิน 7 นาที รับรองว่าอร่อย พร้อมคุณประโยชน์ ทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ สลัดผักโขมและสตรอว์เบอร์รี ผักโขม 1 ถ้วยตวง + สตรอว์เบอร์รีหั่นซีก 1/2 ถ้วยตวง + อัลมอนด์สไลซ์ 1/4 ถ้วยตวง + เฟต้าชีส 1/4 ถ้วยตวง + น้ำสลัดน้ำผึ้งมัสตาร์ด 2 ช้อนโต๊ะ สลัดอะโวคาโดและแซลมอน อะโวคาโดหั่นเต๋า 1/2 ลูก + แซลมอนรมควันฉีก 1/2 ถ้วยตวง + มะเขือเทศราชินีหั่นซีก 1/2 ถ้วยตวง + หอมแดงหั่นบาง 1/4 ถ้วยตวง + น้ำสลัดบัลซามิก 2 ช้อนโต๊ะ สลัดกะหล่ำปลีม่วงและลูกแพร์ กะหล่ำปลีม่วงหั่นฝอย 1/2 ถ้วยตวง […]
6 ขั้นตอนออกกำลังกายเผาผลาญไขมัน บทนำ การลดน้ำหนักและเผาผลาญไขมันเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับหลายๆ คน แต่การเลือกวิธีออกกำลังกายที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องท้าทาย บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการออกกำลังกาย 6 ขั้นตอนที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนที่ 1: การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ กลไกการออกกำลังกาย: ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ทำให้ร่างกายใช้พลังงานและเผาผลาญไขมัน ประเภทการออกกำลังกายที่แนะนำ: วิ่ง จ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ระดับความเข้ม: ปานกลางถึงสูง (อัตราการเต้นของหัวใจ 60-80% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด) ระยะเวลา: 30-60 นาที ความถี่: 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ขั้นตอนที่ 2: การฝึกความแข็งแรง (เวทเทรนนิ่ง) กลไกการออกกำลังกาย: สร้างกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย ประเภทการออกกำลังกายที่แนะนำ: ยกเวท วิดพื้น ซิทอัพ สควอท ระดับน้ำหนักที่ใช้: ปานกลาง (สามารถทำซ้ำท่าได้ 8-12 ครั้ง) จำนวนเซ็ตและครั้ง: 3-4 เซ็ต x 8-12 ครั้ง ความถี่: […]
6 วิธี เพิ่มการเผาผลาญ 1. รับประทานอาหารที่ประกอบด้วยโปรตีนเป็นหลัก โปรตีนต้องใช้พลังงานสูงในการย่อย ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ถึง 15-30% 2. ออกกำลังกายแบบเน้นการใช้แรงต้านทาน เช่น การเวทเทรนนิ่ง การออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อเป็นเนื้อเยื่อที่เผาผลาญพลังงานสูงกว่าไขมัน ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญได้ในระยะยาว 3. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นประจำ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ การขี่จักรยาน ช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้อย่างรวดเร็วในระหว่างออกกำลังกาย 4. รับประทานอาหารเช้าทุกวัน การรับประทานอาหารเช้าช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญอาหารได้ดีขึ้น เพราะจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเลปติน (ฮอร์โมนที่ช่วยลดความอยากอาหาร) และลดระดับฮอร์โมนเกรลิน (ฮอร์โมนที่กระตุ้นความอยากอาหาร) 5. ดื่มน้ำปริมาณมาก น้ำเย็นช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ถึง 30% เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานในการปรับอุณหภูมิของน้ำ 6. นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับไม่เพียงพอสามารถลดระดับฮอร์โมนเลปตินและเพิ่มระดับฮอร์โมนเกรลิน ซึ่งจะทำให้รู้สึกหิวและกินมากขึ้น นอกจากนี้การนอนหลับยังช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเจริญเติบโต (GH) ซึ่งช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและกระตุ้นการเผาผลาญได้## 6 วิธี เพิ่มการเผาผลาญ บทสรุป บทความนี้จะแนะนำ 6 วิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักและรักษาน้ำหนักที่เหมาะสมได้ วิธีเหล่านี้ได้แก่ การออกกำลังกายเป็นประจำ […]
6 อันดับอาหารแคลอรี่น้อยลดน้ำหนัก บทสรุป การลดน้ำหนักสามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ นี่คือรายการอาหาร 6 อย่างที่ช่วยในการลดน้ำหนักพร้อมคำแนะนำในการรับประทานเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด บทนำ การลดน้ำหนักเป็นเป้าหมายที่ท้าทายสำหรับหลายๆ คน อาหารเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อน้ำหนักตัว การเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำแต่ให้สารอาหารที่จำเป็นสามารถช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะแนะนำ 6 อันดับอาหารแคลอรี่น้อยที่เหมาะสำหรับการลดน้ำหนัก 6 อันดับอาหารแคลอรี่น้อยลดน้ำหนัก 1. ผักใบเขียว เป็นแหล่งของวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยอาหารสูง มีแคลอรี่ต่ำและช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ผักโขม: มีวิตามินซีและธาตุเหล็กสูง คะน้า: มีวิตามินเคและวิตามินซีสูง กะหล่ำปลี: มีไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระสูง บรอกโคลี: มีวิตามินซีและซัลโฟราเฟน ซึ่งเป็นสารต้านมะเร็งที่ทรงพลัง ผักกาดขาว: มีแคลเซียมและโฟเลตสูง 2. กะหล่ำปลี กะหล่ำปลีมีแคลอรี่ต่ำและมีใยอาหารสูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มและลดความอยากอาหาร ผักกาดขาว: มีวิตามิน C สูงและช่วยย่อยอาหาร กะหล่ำดอก: เป็นแหล่งของวิตามิน C และโพแทสเซียมที่ดี บรัสเซลส์สปราวต์: มีสารต้านอนุมูลอิสระและใยอาหารสูง ผักคะน้า: มีแคลเซียมและวิตามิน K สูง กะหล่ำม่วง: มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบสูง 3. […]
วิธีกำจัดสิวหัวดำให้หมดไป สิวหัวดำเป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อย เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนด้วยเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว น้ำมัน และแบคทีเรีย จนทำให้เกิดการอักเสบเล็กน้อยที่ด้านบนของรูขุมขน เมื่อสิวหัวดำถูกออกซิไดซ์กับอากาศก็จะกลายเป็นสีดำ การปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลผิวอย่างถูกต้องสามารถช่วยป้องกันและกำจัดสิวหัวดำได้ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการในการกำจัดสิวหัวดำอย่างได้ผล: ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำ: ล้างหน้าสองครั้งต่อวันด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยนเพื่อขจัดสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน และแบคทีเรีย ใช้ผ้าเช็ดหน้าที่สะอาดและนุ่มเพื่อซับหน้าให้แห้ง สครับผิวเป็นประจำ: สัปดาห์ละครั้ง ให้ใช้สครับขัดผิวเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกออกไป เลือกใช้สครับที่อ่อนโยนและมีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาลหรือโจโจบา ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน: แผ่นลอกสิวเสี้ยนสามารถช่วยกำจัดสิวหัวดำได้โดยกำจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน แต่ควรใช้เฉพาะบริเวณที่มีสิวหัวดำและไม่ควรใช้บ่อยเกินสัปดาห์ละครั้ง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซาลิไซลิกหรือเบนซอยล์เปอร์ออกไซด์: กรดซาลิไซลิกช่วยละลายน้ำมันในรูขุมขน ในขณะที่เบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ฆ่าแบคทีเรียได้ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอเพื่อลดการอุดตันของรูขุมขนและการเกิดสิว ใช้มาสก์โคลน: มาสก์โคลนช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน ให้ชโลมมาร์กให้ทั่วใบหน้าแล้วทิ้งไว้ให้แห้งก่อนจะล้างออก ใช้มาสก์โคลนสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า: การสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ อาจทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายไปยังผิวและทำให้เกิดสิวได้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็นวิธีกำจัดสิวหัวดำให้หมดไป บทสรุป สิวหัวดำเป็นปัญหาทั่วไปที่สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้คน นับตั้งแต่การอักเสบไปจนถึงความรู้สึกไม่มั่นใจ อย่างไรก็ตาม ด้วยการดูแลที่เหมาะสม คุณสามารถกำจัดสิวหัวดำและเผยผิวที่กระจ่างใสได้ วิธีการรักษาที่ได้ผลมีตั้งแต่การทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดสิว และในบางกรณีอาจต้องใช้การรักษาด้วยยา การค้นหาสิ่งที่ได้ผลสำหรับคุณอาจใช้เวลา และความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิวหัวดำอันน่ารำคาญเหล่านั้นสามารถเอาชนะได้ บทนำ สิวหัวดำเป็นชนิดของสิวที่เกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนอุดตันด้วยน้ำมันและสิ่งสกปรก ด้วยการทำงานร่วมกันแล้วสิ่งเหล่านี้จะสร้างเป็นสีดำอันไม่น่ามองบนใบหน้าของคุณ ซึ่งสามารถพัฒนาในหลายพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่มักพบตามบริเวณทีโซน ซึ่งรวมถึงบริเวณจมูก คาง และหน้าผาก […]
6 เคล็ดลับกำจัดกลิ่นปาก บทสรุปผู้บริหาร กลิ่นปากเป็นปัญหาที่สร้างความน่ารำคาญทั้งต่อตนเองและผู้อื่น แต่โชคดีที่มีวิธีง่ายๆ ไม่กี่วิธีที่สามารถช่วยกำจัดกลิ่นปากได้ เคล็ดลับเหล่านี้มีประสิทธิภาพและง่ายต่อการปฏิบัติ เคล็ดลับเหล่านี้ได้แก่ การรักษาสุขอนามัยในช่องปาก การใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมต่อต้านแบคทีเรีย การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ การเคี้ยวหมากฝรั่ง และการหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด บทนำ กลิ่นปากเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปซึ่งเกิดจากการหมักหมมของแบคทีเรียในช่องปาก แบคทีเรียเหล่านี้จะผลิตสารที่เป็นกลิ่นเหม็นซึ่งทำให้เกิดกลิ่นปากได้ ทั้งนี้ มีหลายวิธีที่สามารถช่วยกำจัดกลิ่นปากได้ แต่เคล็ดลับต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่ได้ผลและง่ายที่สุด รักษาสุขอนามัยในช่องปาก สุขอนามัยในช่องปากเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการป้องกันและกำจัดกลิ่นปาก ขั้นตอนต่อไปนี้คือขั้นตอนสำคัญในการรักษาสุขอนามัยในช่องปาก แปรงฟันอย่างน้อยวันละสองครั้ง โดยเน้นที่บริเวณซอกฟันและบริเวณลิ้น ใช้ไหมขัดฟันเพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารออกจากบริเวณซอกฟัน ล้างปากด้วยน้ำยาบ้วนปากวันละสองครั้ง ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมต่อต้านแบคทีเรีย ยาสีฟันที่มีส่วนผสมต่อต้านแบคทีเรียสามารถช่วยในการกำจัดกลิ่นปากได้ด้วยการลดจำนวนแบคทีเรียในช่องปาก สารที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ triclosan และ chlorhexidine ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอเป็นวิธีที่ดีในการกำจัดกลิ่นปาก เนื่องจากน้ำเปล่าช่วยชะล้างเศษอาหารและแบคทีเรียออกจากปาก เคี้ยวหมากฝรั่ง การเคี้ยวหมากฝรั่งสามารถช่วยในการกำจัดกลิ่นปากได้ด้วยหลายวิธี ประการแรก การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลาย ซึ่งจะช่วยชะล้างเศษอาหารและแบคทีเรียออกจากปาก ประการที่สอง มิ้นต์ในหมากฝรั่งช่วยดับกลิ่นเหม็น หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด อาหารบางชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม และเครื่องเทศ อาจทำให้เกิดกลิ่นปากได้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้หากเป็นไปได้ บทสรุป การกำจัดกลิ่นปากเป็นเรื่องง่ายโดยทำตามเคล็ดลับง่ายๆ เพียงไม่กี่ประการ […]
วิตามินแต่ละชนิดกินตอนไหนดี การรับประทานวิตามินในแต่ละมื้ออาหารอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมการดูดซึมสารอาหาร เนื่องจากอาหารบางชนิดสามารถช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงก็คือการได้รับวิตามินมากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้นการรับประทานวิตามินเสริมเพิ่มเติมจึงจำเป็นต้องมีการพูดคุยกับแพทย์หรือเภสัชกรโดยตรง เพื่อตรวจสอบขนาดยาที่ถูกต้องและหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการเพิ่มสารอาหารในมื้ออาหารประจำวัน vitamin của Nhật Bản วิตามินละลายในไขมัน วิตามินเหล่านี้จะถูกดูดซึมได้ดีที่สุดเมื่อรับประทานร่วมกับอาหารที่มีไขมัน วิตามินกลุ่มนี้ ได้แก่: วิตามิน A: – ช่วยรักษาสุขภาพของสายตา ผิวหนัง ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบสืบพันธุ์ วิตามิน D: – มีส่วนสำคัญในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสซึ่งจำเป็นต่อกระดูกและฟันที่แข็งแรง วิตามิน E: – เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย วิตามิน K: – จำเป็นต่อการแข็งตัวของเลือดและสุขภาพของกระดูก วิตามินละลายในน้ำ วิตามินเหล่านี้จะถูกดูดซึมได้ดีที่สุดเมื่อรับประทานขณะท้องว่าง โดยจะละลายในน้ำและไม่จำเป็นต้องมีไขมันในการดูดซึม วิตามินกลุ่มนี้ ได้แก่: วิตามิน C: – เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน บำรุงผิว และช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น วิตามิน B1 (ไทอามีน): – จำเป็นต่อการผลิตพลังงานและการทำงานของระบบประสาท วิตามิน B2 (ไรโบฟลาวิน): – จำเป็นต่อการเผาผลาญอาหารและการผลิตพลังงาน […]
7 ท่าบริหารกล้ามเนื้อบริเวณโต๊ะทำงาน การทำงานที่โต๊ะเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยร่างกายได้ เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ เราจึงควรมีการบริหารกล้ามเนื้อเป็นประจำ ซึ่งท่าบริหารต่อไปนี้สามารถทำได้ง่ายๆ บริเวณโต๊ะทำงาน ดังนี้ ยืดไหล่และหน้าอก นั่งหลังตรงพิงพนัก ยืดแขนทั้งสองข้างออกไปข้างๆ ลำตัว จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งประสานกับมือข้างที่ยื่นออกไป และค่อยๆ ดึงแขนเข้าหาลำตัวจนรู้สึกตึงบริเวณหลังและหน้าอก ค้างไว้ 10-15 วินาที ยืดหลังส่วนบน นั่งตัวตรง หลังพิงพนักเบาะเก้าอี้ ใช้ 2 มือจับพนักพิงเบาะด้านหลัง ยื่นคางขึ้น พร้อมกับดันให้หน้าอกออกด้านหน้า ค้างไว้ 10-15 วินาที ยืดหลังส่วนกลาง นั่งตัวตรง หลังพิงพนักเบาะเก้าอี้ โน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกับใช้แขน 2 ข้างกอดบริเวณหัวเข่า ค้างไว้ 10-15 วินาที ยืดไหล่และคอ นั่งหลังตรง พิงพนักเบาะเก้าอี้ ยกไหล่ขึ้นมาในระดับหู จากนั้นโน้มศีรษะไปข้างหน้า เหมือนเวลาเราก้มหัว ผ่อนคลายและเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณคอค้างไว้ 10-15 วินาที ยืดข้อมือ นั่งหลังตรง หลังพิงพนักเบาะเก้าอี้ แขม่วหมัด แล้วยืดนิ้วมือออกตรงๆ จากนั้นค่อยๆ ก้มข้อมือลงไปข้างหลังให้รู้สึกตึงบริเวณข้อมือ […]